จะรีวิวความในใจกับ Nextbit Robin แบบไม่มีกั๊กตามสไตล์คนไม่ geek

    ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนเลย หลงรัก Nexbit Robin แบบ love at first sight มากๆ จากการไถไทม์ไลน์ฟีดจากที่ไหนซักแห่ง เมื่อช่วงเดือนกันยา 2015 ที่ผ่านมาในค่ำคืนนั้น คิดสั้นๆง่ายๆแค่ว่าต้องมีเจ้ามือถือนี่ครอบครองอยู่ในมือ และใช้คูลๆเพราะไม่อยากเหมือนชาวบ้านแค่นั้นแหละค่ะฮ่าๆ

DSC03815.JPG

     ด้วยดีไซน์ที่แปลกใหม่ ไม่เหมือนสมาร์ทโฟนเครื่องอื่น เลยตัดสินใจเป็น backer ครั้งแรกบน kickstarter ให้กับสตาร์ทอัพอย่าง Nextbit และเรามั่นใจว่ามือถือที่ออกมา จะต้องดีตามคาดแน่นอน

     ระหว่างนั้นเราตามติดอัพเดทของ Nextbit แบบไม่ห่าง เกริ่นก่อนดีกว่า ว่าค่าย Nextbit คือค่ายมือถือสตาร์ทอัพที่เริ่มนำโดยเดเวลอปเปอร์จาก HTC,Android และ google (ไม่แน่ใจ) เมื่อปี 2012 และเปิดแคมป์เปญจ์ระดมทุนบน Kickstarter ในเดือนกันยายน ปี 2015 ซึ่งผลตอบรับจากเหล่า backer มาเกินความคาดหมายมากๆ

   จริงๆความระบบ cloud มันก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ของ nextbit ทำมือถือ robin ออกมาเพื่อบริหารทรัพยากรหน่วยความจำในเครื่องได้อย่างดี เหมาะสำหรับคนที่โหลดแอพเก็บไว้ แอพเยอะ แต่บางแอพจำเป็นต้องมี แต่ไม่ค่อยได้ใช้ พอเมมจะเต็ม ก็ต้องจำใจลบทิ้ง อะไรแบบนั้นแหละ :v

   ทีนี้มาดูในแต่ละส่วนของเจ้า Nextbit Robin กันดีกว่า

SPECS

จอกว้าง 5.2 นิ้ว

ขนาดเครื่องกว้าง 72mm x สูง 149 mm x หนา 7 mm   

หน่วยความจำ RAM 3 GB ,on board 32 GB (+ 100 GB in cloud)

กล้องหลัง 13 MP Rear-facing with phase detection,  autofocus, dual-tone flash

กล้องหน้า 5 MP Front-facing

ลำโพง Dual Speaker with amplifier

                 คลื่นสัญญาณที่รองรับ

                 GSM 850/900/1800/1900

                 HSPA 850/900/1700/1800/1900/2100

                 LTE Bands 1/2/3/4/5/7/8/12/17/20/28

  ะบบ Android 6.0 Mashmallow

Qualcomm™ Quick Charge 2.0

USB Type C

Bluetooth 4.0 LE

Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac

Battery 2680 mAH

เนื่องจากเราเป็น backer ใน kickstarter เราสั่งในแพคเกจ 399$ (รวมภาษีและค่าส่งอีก 49$)
ประกอบไปด้วย

  1. Nextbit Robin (มีสามสีคือ mint กับ midnight จะได้สายชาร์จสีฟ้า ส่วน electric ได้สายสีเดียวกับหัว quick charger ค่ะ)
  2. Sheep mascot vinyl (มีให้เลือกสองสีคือ mint กับ grape มูลค่า 40$)
  3. quick charger (อันนี้ในราคาปกติจะขายแยกต่างหาก มูลค่า 15 $)
  4. sim tray
  5. Nextbit T-shirt
  6. Nextbit Case (มีให้เลือก 3 แบบ เราเลือก Bruises case มา มูลค่า 35$)
  7. 100 GB on cloud (ซึ่งก็ได้ทุกคนที่ซื้อนั่นแหละ ฮ่าๆ)

 

น่าเสียดายที่เอากล่องมารีวิวไม่ได้ โดนปลวกกินไวและดุเดือดมาก จะร้องไห้
คือมี warranty เครื่อง 1 ปีนับจากวันที่ซื้อนะ แต่เรื่องประกันกล่องโดนปลวกจะขอได้มั้ยนะ
(ซึ่งยังไม่รู้ว่าถ้าอีเมลไปหา support ขอกล่องใหม่เค้าจะให้มั้ย โอ้ยย 555)

แต่อัดคลิป low quality แกะกล่องไว้ค่ะ (น้ำตาจะไหล)

ดูจบแล้วก็มาต่อในส่วนรีวิวกันค่ะ (หรือไม่ต้องดูก็ได้ อัดดิบมาก เขิน ฮ่าๆ)

BODY : ดีไซน์มือถือทำออกมาได้แปลกใหม่ เหมือนของเล่นเลย นี่แหละจุดขายหลักของ Nextbit Robin ที่สำคัญได้รางวัล winner ของ Red Dot design award ด้วยค่ะ

สีนี้ที่สั่งมา เป็นสี Electric ค่ะ สีพิเศษเฉพาะ backer ที่ระดมทุนบน Kickstarter เท่านั้นค่ะ

DSC03808DSC03809

สำหรับหัวชาร์จของเจ้าตัวนี้ ใช้เป็น USB type A-C ค่ะ

photo528932344014417274.jpg

ดังนั้นไม่ต้องกังวลว่าจะล้ำเกินไป ยังมีหัว type A ที่ยังสามารถใช้ชาร์จกับชาร์จเจอร์ตัวอื่นๆ รวมไปถึงพาวเวอร์แบงค์ด้วยค่ะ สายชาร์จเป็นสายแบนใหญ่ ไม่ต้องห่วงเรื่องสายชาร์จพันกันแน่นอน

หัว Quick Charger จะมีให้เลือก 4 แบบตามหัวปลั๊กของแต่ละพื้นที่บนโลก ซึ่งแบบที่เลือกมาสามารถใช้ได้กับบ้านเราเป็นปกติค่ะ

DSC03817
กล้องหน้า และลำโพงด้านบน
DSC03819
ลำโพงด้านล่าง และรูเสียบสายชาร์จ ถัดจากไมค์คือ notification light

ส่วนที่เราชอบมากที่สุดคือ Dual Speaker เป็นลำโพงคู่หน้าเครื่อง ซึ่งคุณภาพเสียงให้ได้นามิคครบมาก ติดทุ้มหน่อย อาจจะไม่ใสบาง แต่รายละเอียดของการให้เสียงค่อนข้างครบ ไม่จำเป็นต้องพึ่งลำโพงใหญ่ หรือเปิดเพลงบน Macbook อีกต่อไป เวลาเอาเจ้าโรบินไปฟังเพลงเวลาอาบน้ำ ถือได้ว่าให้คุณภาพเสียงที่ดีเลยทีเดียว เทียบกับมือถือทั่วไปที่เคยลอง เวลาเสียบกับหูฟังก็ให้คุณภาพเสียงที่โอเคเลยทีเดียวค่ะ

ปุ่มเพิ่มลดเสียงเป็นปุ่มแยกวงกลมสองปุ่ม กดยากและดูอ่อนแอไปหน่อย ยิ่งหุ้มด้วยเคสแล้วทำให้ยิ่งกดยาก และยังไม่ซัพพอร์ตในการเป็นชัตเตอร์กล้องสำหรับตอนนี้ (แต่คิดว่าในอนาคตคงจะมีแน่ๆ)

notification light : อยู่ใต้ท้องเลย เราไม่ค่อยชอบส่วนนี้ อาจเพราะชินกับ Nexus 5 ที่อยู่หน้าเครื่อง แถมเปลี่ยนสีตามแอพฯได้ สำหรับโรบินมีสีเดียวคือไฟสีฟ้า ในอนาคตไม่แน่ใจว่าจะสามารถเปลี่ยนสีได้มั้ย ในเชิงลึกทางเทคนิคอันนี้ไม่รู้ละ เวลาชาร์จแบตก็จะมีไฟขึ้นให้เห็นว่ากำลังชาร์จอยู่เช่นกันค่ะ

DSC03821
ด้วยดีไซน์ที่พอดีมือและกระชับ ทำให้สแกนนิ้วมือได้ง่ายกว่าใส่เคส
DSC03843
ใส่เคสกันกระแทกแล้วมือถือจะหนาขึ้นนิดนึง แต่จะสแกนนิ้วมือยากกว่าตอนไม่ใส่เคสหน่อยนึง

เปรียบเทียบตอนแนบหู เวลาใส่เคส กับไม่ใส่เคส

DSC03844DSC03847

ไม่ใส่เคสคูลกว่าเห็นๆ แต่เป็นคนซุ่มซ่าม เลยต้องยอมใส่เคสปกป้องน้องไม่ให้กระแทกจนตาย

NFC+Home : แถบสีฟ้าด้านข้างเครื่อง เป็นทั้งที่สแกนนิ้วมือ สามารถเพิ่มลายนิ้วมือได้ถึง 5 นิ้ว และเป็นปุ่ม powerไปในตัวด้วย บางคนอาจเข้าใจผิดว่าลำโพงเป็นปุ่มโฮมบ่อย เราเลยไม่แปลกใจเลยที่ห่อ wrap ในกล่องเขียนว่า นี่คือลำโพง ไม่ใช่ปุ่มโฮม! (nextbit เป็นบริษัทขี้เล่นจริงๆ)

UX/UI design : ทำออกมาได้สวยงาม ดูดี อีไล้ (ที่มาจากคำว่า elite เอลีทนั่นแหละค่ะ) ฮายโซวมากๆ ไอคอนคุมโทนตามสีของค่าย มีเอฟเฟ็กต์หมอกเวลาสไลด์หน้าจอ สำหรับคนที่เคยใช้ระบบ iOS ของ iphone มาก่อน แล้วย้ายมาใช้ Nextbit Robin นั้น คงไม่ต้องปรับตัวมากกับ android ของเจ้าสิ่งนี้ จะให้เราไว้แอปทั้งหมดเป็นหน้าๆ เรียงตามความชอบก็ได้ จัดกรุ๊ปได้ แต่ remove แอพออกจากหน้าจอไม่ได้ ไม่เหมือน launcher ตัวอื่น (หากใครไม่ชอบ launcher ของ Nextbit ก็โหลดของตัวอื่นมาใช้แทนได้ค่ะ)

ปุ่มสีม่วงๆบนหน้าจอนั้น สามารถทำให้เราดูแอพที่ถูกเก็บชั่วคราวไว้บน cloud ,แอพที่ pin เก็บไว้ในเครื่อง ไม่ให้ขึ้น cloud เวลาไม่ได้ใช้ และรวมแอพทั้งหมด เรียงตาม A-Z ค่ะ

แล้วจะจัด Widget ยังไง?

photo528932344014417283

OS ของ nextbit จะไม่เหมือน OS android ตัวอื่น เวลาเราจะเรียง widget ให้ใช้นิ้วสองนิ้ว swipe หน้าจอเข้าหากัน ก็จะเข้าสู่หน้ารวม widget บางคนอาจจะไม่ชอบ บางคนอาจจะชอบเพราะจะได้ไม่รกหน้าโฮมเกินไป

กล้อง : มีโหมด Auto, Manual, video (คุณภาพสูงสุดคือ 4k)

DSC03813.JPG

ส่วนตัวเราชอบคุณภาพกล้องแค่ถ่ายโหมดออโต้ก็ดูดีแล้ว แต่กล้องหน้า white balance อาจจะสว่างไป เลือกจุดโฟกัสไม่ได้ แต่เซลฟี่แล้วออกมาไบร์ทดีค่ะ

ส่วนโหมด manual ก็เป็นโหมดพื้นฐานกล้องทั่วไปค่ะ ในส่วนของ HDR โหมดยังช้าไปมาก ภาพออกมายังไม่พอใจ และไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ จริงๆเทียบโหมดออโต้ ก็จะเท่ากับ HDR ของกล้อง nexus5 ค่ะ เรื่องของชัตเตอร์ หลังอัพเดทเป็น android 6.0.1 แล้ว ชัตเตอร์เร็วขึ้นเยอะ (จากตอนได้เครื่องครั้งแรก ชัตเตอร์ช้าไม่เป็นใจมากกกก)

photo528932344014417281
โฟกัสมีทั้งแบบ auto, manual, macro และเลือกจุดโฟกัสเองเฉพาะ
photo528932344014417280
ค่า white balance ของกล้อง Robin

ค่า + , – ปรับได้ตั้งแต่ -2 ถึง +2 stop
และ ISO มีตั้งแต่ Auto, 100, 200, 400, 800, 1600, 3200 ค่ะ

มาถึงช่วงปล่อยรูป #Robincam ซึ่งสามารถใช้แฮชแท็กนี้ไปค้นหารูปถ่ายจาก Robin ได้ทั้ง twitter และ instagram ดูค่ะ จะมีรูปถ่ายสวยๆ ดีๆ น่ารักๆเพียบเลย

เริ่มด้วยภาพวิว

2016-04-20 17:01:12.9692016-04-20 17:31:33.4792016-04-26 21:36:43.1692016-05-23 18:42:26.0542016-05-23 18:43:29.021

ต่อด้วยภาพหิว

2016-04-23 20:16:26.5242016-04-29 20:27:30.1602016-05-02 19:59:09.1862016-05-20 16-29-16.121

ภาพแมว

2016-04-19 17:26:31.1752016-04-19 17:26:39.187

ภาพคอนเสิร์ต

2016-04-23 23:07:08.0402016-05-18 19:45:27.603

ภาพถ่ายเล่นไปเรื่อย

2016-04-22 15:00:12.6382016-04-22 21:20:11.8432016-05-11 21:01:56.365

ภาพเซลฟี่

2016-04-20 16:34:30.6252016-05-18 17:12:20.3712016-05-20 21:01:35.248IMG_20160422_202013

กลับมาต่อที่ฟีเจอร์เด่นของ Nextbit Robin กันค่ะ

ในส่วนของระบบ cloud นั้น มีพื้นที่ให้เราได้ใช้เต็มๆฟรีๆ 100GB เราสามารถตั้งค่าให้ sync ได้ว่าจะให้ซิงก์ตอนที่ connect wifi หรือตอนชาร์จแบตค่ะ เวลาเจ้า robin กำลัง sync ข้อมูลอยู่ ไฟทางด้านหลังเครื่องจะกระพริบ เมื่อเสร็จกระบวนการ ไฟก็จะดับไปค่ะ

ezgif-570045207.gif

ซึ่งสำหรับตอนนี้ สิ่งที่ถูกเก็บไปใน cloud จะเป็น app data,รูปถ่าย (ตอนนี้ยังเป็น photo only ในอนาคตอาจจะสามารถแบ็คอัพวีดีโอ และเพลงได้) แอพพลิเคชั่นที่มีติดเครื่องแต่ใช้น้อยมาก จะถูกเก็บไว้บนคลาวด์ และไอคอนจะเป็นสีเทา เมื่อต้องการเรียกใช้งาน เพียงแค่จิ้มแอพนั่นให้กลับมาลงยังเครื่องในเวลาไม่นาน ถือว่าเป็นการบริหารทรัพยากรความจำของโทรศัพท์มือถือได้ฉลาดและคุ้มค่าทีเดียวค่ะ

สรุป

ข้อได้เปรียบ

1.ความจำจุไม่อั้น
2.UX/UI ดีไซน์สวย
3.Body ก็สวย และใหม่ในแวดวงมือถือ
4.ลำโพงคุณภาพเสียงดีงาม
5.คุ้มค่า คุ้มราคา

ข้อเสียเปรียบ

1.กล้องหน้าปรับอะไรไม่ค่อยได้ สว่างไปเป็นบางที
2.โหมด HDR ยังต้องพัฒนา รวมไปถึงอัพเดทปุ่มกดชัตเตอร์
3.ลำโพงอาจดังเกินไป เวลาเปิดในที่สาธารณะ

หากใครสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม ไปส่องได้ที่ www.nextbit.com ค่ะ
หรืออยากได้มาครอบครองบ้าง ทางเว็บไซต์จะขายในราคา 399$ (เฉพาะตัวเครื่องกับสายชาร์จ) ส่วน accessories เพิ่มเติมอื่นๆซื้อแยกค่ะ

ก่อนไปขออวด Robin รวมกับสีมิ้นต์คอลเลคชั่นส่วนตัว :p

IMG_20160418_175645 copy

รีวิวครั้งต่อไปเตรียมพบกับ Urbanears Plattan adv หูฟังสุดคูลจากสวีเดนค่ะ

ขอบคุณค่า

 

5 Comments Add yours

  1. เห็นเด้งมาในฟีด หน้าตามือถือดูแปลกตาดี เข้ามาอ่านๆ เลื่อนเจอวิดีโอ อ้าว หน้าคุ้นๆ ^^”
    มันหน้าใช้มากก อยากรู้เรื่อง GPS เพิ่มเติมว่าใช้งานได้แม่นมั้ย ตอนนี้ zenfone2 ที่ใช้ GPS ในกูเกิลแมพนี่ดีเลย์หนักมาก ใช้จับเส้นทางตอนขับรถไม่ได้เลย กะเรื่องของแบต ประมาณว่าใช้ได้นานแค่ไหนก่อนชาร์จฮะ

    แต่มันสวยดีจริงๆ

    Like

  2. สมที่รอคอยเนิสรีวิว มันน่าใช้มากน่าเล่นมาก พอลองแปรงราคาจากดอลเป็นนไทยจัดว่าสเปคเด็ดดวง

    Like

  3. สมกับที่รอเนิสรีวิว Nextbit robin น่าใช้มาก จัดเป็นสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่หน้าตาดี ui สวยตัวนึงเลย ตอนเนิสโพสราคาเป็นดอลพอลองแปรงแล้วราคาเท่านี้สเปคขนาดนี้ได้คุ้มกว่าตัวราคาเท่านี้ของแบรนดด์ดังหลายตัวเลย เค้าคงต้องรอตอนวางขาย 555555 จะติดตามบล็อกไว้รอเนิสรีวิวอย่างอื่นอีก 😀

    Like

    1. ตอนนี้มันวางขายแล้ว สั่งซื้อกับทาง store บนเว็บไซต์ได้เลย free shipping (แต่จะมาโดนภาษีอีกรอบมั้ย ไว้แน่ใจ)

      Like

Leave a reply to Wichayaporn Kliangkaew Cancel reply